เทพผู้พิทักษ์แห่งเปลวเพลิง: เอี่ยมกวงไต่ตี้
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในยุคราชวงศ์ซ่ง ณ หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ชาวบ้านต่างอยู่อย่างสงบสุข รู้จักแต่การทำไร่ไถนา จนกระทั่งวันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ประหลาด แผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น ไฟป่าลุกโหมไหม้บ้านเรือนเสียหาย ผู้คนต่างหวาดกลัว ไม่มีใครหาสาเหตุของภัยพิบัติครั้งนี้ได้
ท่ามกลางความโกลาหลนั้น มีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งนามว่า "หลี่เหลียง" เขาเป็นเด็กกำพร้า กตัญญู ช่วยเหลือชาวบ้านเท่าที่กำลังจะทำได้ เมื่อเห็นไฟไหม้บ้านเรือน เขารีบเข้าไปช่วยดับไฟอย่างไม่กลัวอันตราย จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หลี่เหลียงพลัดตกลงไปในกองเพลิง!
ชาวบ้านต่างตกใจคิดว่าหลี่เหลียงคงไม่รอดชีวิต ทันใดนั้นเอง เปลวไฟก็มอดดับลงอย่างน่าอัศจรรย์ และหลี่เหลียงก็เดินออกมาจากกองเพลิงโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แถมยังมีร่างกายที่เปล่งประกายดุจทองคำ! ทุกคนต่างตกตะลึง หลี่เหลียงเล่าว่า ท่านเทพองค์หนึ่งปรากฏกายขึ้นในเปลวเพลิง ช่วยเขาจากความตาย และประทานพลังแห่งไฟให้แก่เขา
หลี่เหลียงได้ใช้พลังนี้ช่วยเหลือผู้คน ปราบปีศาจ ป้องกันภัยพิบัติ จนเป็นที่เคารพรักของชาวบ้านทั่วไป เมื่อหลี่เหลียงสิ้นอายุขัย วิญญาณของเขาก็ได้ขึ้นสวรรค์ กลายเป็นเทพเจ้าผู้มีนามว่า "เอี่ยมกวงไต่ตี้" หรือที่รู้จักกันในนาม "เจ้าพ่อพระเพลิง"
ลักษณะพิเศษ: องค์เอี่ยมกวงไต่ตี้มักปรากฏกายในรูปลักษณ์ชายหนุ่มรูปงามสง่า ผิวพรรณเปล่งปลั่งดุจทองคำ สวมชุดนักรบสีแดงเพลิง บ้างก็ปรากฏในรูปเทพเจ้าสามตา ถือดาบวิเศษและลูกประคำ
คุณธรรม: องค์เอี่ยมกวงไต่ตี้เป็นเทพเจ้าแห่งความกล้าหาญ เสียสละ และเมตตา ท่านยอมสละชีวิตตนเองเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ไม่หวั่นเกรงต่ออันตราย
คำขอ: ผู้คนนิยมขอพรองค์เอี่ยมกวงไต่ตี้ในเรื่องต่างๆ ดังนี้
ศาลเจ้าพระเพลิง: ปัจจุบันมีศาลเจ้าที่บูชาองค์เอี่ยมกวงไต่ตี้ หรือ เจ้าพ่อพระเพลิง อยู่หลายแห่งในประเทศไทย ผู้คนนิยมไปกราบไหว้ขอพร บูชาด้วยธูปเทียน ดอกไม้ ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลกินเจ
ข้อคิด: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความกล้าหาญ เสียสละ และเมตตา เป็นคุณธรรมสำคัญที่ควรมีในจิตใจคนเรา การช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน จะนำมาซึ่งความสุขและความเจริญแก่ตนเอง